การก่อสร้างอาคารทุกประเภท ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ดังนั้นโครงสร้างจึงเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญ เริ่มต้นจาก การทาสีกันไฟ หรือ สีกันไฟไหม้ บนโครงสร้างเหล็กของอาคาร เพื่อยืดระยะเวลาการลุกลามของไฟ

เชื่อว่าหลายๆ คนในที่นี้อาจจะยังไม่รู้ว่า การทาสีกันไฟ นอกจากช่วยยืดระยะเวลาการลุกลามของไฟแล้ว ยังมีความปลอดภัยในด้านใดอีกบ้าง วันนี้ Bitec Enterprise จะมาแนะนำข้อควรรู้วิธีการทาสีกันไฟ รวมถึงเทคนิคการทาสีกันไฟ เพื่อเป็นแนวทางในการใช้งานอย่างถูกต้อง

 

มาตรฐานสีกันไฟ มีวิธีดูอย่างไร?

ไม่ว่าจะก่อสร้างอาคารประเภทใด ความปลอดภัยต้องมาก่อน ! สำหรับการก่อสร้างจะต้องคำนึงถึงความแข็งแรง ความทนทาน และทนต่อไฟ โดยเฉพาะโครงสร้างเหล็กต้องมีวัสดุเคลทอบเพื่อป้องกันไฟ เช่น สีกันไฟ ดังนั้นสีกันไฟ จึงเป็นส่วนประกอบสำคัญของงานก่อสร้างอาคาร ถ้าหากเป็นสีกันไฟที่ดีต้องได้รับมาตรฐานการรับรองจากสากล และมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • ผ่านมาตรฐาน ASTME 119 เพื่อทดสอบว่าสามารถกันไฟโครงสร้างอาคารเหล็กได้นาน 1-3 ชม.
  • ผ่านการรับรองจากวุฒิวิศวกร เป็นไปตามกฎกระทรวงฉบับที่ 60
  • ปราศจากกลิ่นและสารพิษ ผ่าน LEED ได้มาตรฐานอาคารเขียว Green Building

นอกจากนี้ทุกโครงการก่อสร้างไม่ว่าจะเป็นอาคารขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดใหญ่ จะต้องผ่านกฎหมายควบคุมอาคาร เพื่อดูแลในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งมาตรฐานโครงสร้างหลักอาคาร ที่จำเป็นต้องใช้วัสดุป้องกันไฟโครงสร้างเหล็ก ตามที่กฎกระทรวงฉบับที่ 60 กำหนดอัตราการทนไฟ มีดังนี้

โครงสร้างหลักอาคาร

  • อาคารสำหรับใช้เป็นคลังสินค้า, โรงมหรสพ, โรงแรม, อาคารชุด หรือ สถานพยาบาล
  • อาคารสำหรับใช้เพื่อทำกิจกรรม, อาคารพาณิชยกรรม, การอุตสาหกรรม, การศึกษา, การสาธารณสุข, สำนักงาน และที่ทำการที่มีความสูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป หรือพื้นที่ที่มีขนาดเกิน 1,000 ตร.ม.
  • อาคารสูง, อาคารขนาดใหญ่, อาคารขนาดใหญ่พิเศษ หรือ อาคารที่ใช้เป็นหอประชุม

โครงสร้างอาคารข้างต้น ให้ก่อสร้างด้วยวัสดุทนไฟที่มีคุณลักษณะ ดังนี้ (กรณีโครงสร้างไม่มีคอนกรีตหุ้ม)

  • โครงสร้างหลักที่เป็นเสา หรือ คาน ที่ก่อสร้างด้วยเหล็กโครงสร้างรูปพรรณต้องป้องกันเพื่อให้มีอัตราการทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 3 ชม. และมีพื้นที่ให้อัตราทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 2 ชม.
  • อาคารชั้นเดียว โครงหลังคาต้องมีอัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 1 ชม.
  • อาคารสองชั้นขึ้นไป โครงหลังคาต้องมีอัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชม.
  • โครงหลังคาของอาคารที่มีพื้นที่อาคารรวมกันทุกชั้นในหลังคาเดียวกันไม่เกิน 1,000 ตร.ม. ไม่ต้องมีอัตราทนไฟ
  • โครงหลังคาของอาคารที่อยู่สูงจากพื้นอาคารเกิน 8 ม. และอาคารนั้นมีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ หรือมีการป้องกันความร้อน หรือระบบระบายความร้อน ไม่ต้องมีอัตราทนไฟ

การกำหนดมาตรฐานดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการก่อสร้าง เพื่อความปลอดภัยทั้งปัจจุบันไปจนถึงอนาคตข้างหน้าของผู้อยู่อาศัย

 

ข้อควรรู้ก่อนทา สีกันไฟไหม้

การเลือกใช้สีกันไฟเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถช่วยยืดเวลา และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของทุกคนได้ เพราะ สีกันไฟไหม้ เป็นสีที่มีความทนทานสูง และมีความสำคัญในการปกป้องโครงสร้างเหล็กของอาคาร สำหรับผู้ใช้งานจำเป็นต้องศึกษาข้อควรรู้ การทาสีกันไฟ ก่อนเริ่มต้นใช้งาน ซึ่งข้อควรรู้หลักๆ มีดังนี้

  1. ข้อกำหนดทั่วไป
    • ผู้ติดตั้งต้องเป็นผู้จัดเตรียมคนงาน, เครื่องมือ และเครื่องจักรที่ใช้ในการปฏิบัติงานและติดตั้ง
    • ต้องติดตั้งวัสดุป้องกันไฟทั้งหมดที่ระบุไว้ในแบบ, ระบุไว้ ณ ที่นี้ และ/หรือตามความจำเป็นของสภาพหน้างาน
  2. คุณสมบัติที่ต้องการ
    • วัสดุป้องกันไฟโครงสร้างเหล็กต้องมีอัตราการทนไฟตามกฎกระทรวง ติดตั้งด้วยวิธีการพ่นหรือทาบนโครงสร้างเหล็ก
  3. ข้อกำหนด
    • ก่อน การทาสีกันไฟ ต้องใช้วัสดุป้องกันไฟโครงสร้างเหล็กที่ได้มาตรฐานตามการทดสอบมาตรฐาน ASTM E119
  4. การรับรองคุณภาพ
    • ต้องใช้วัสดุป้องกันไฟแต่ละรุ่นที่ผลิตจากโรงงานเดียวกันที่ได้มาตรฐาน
    • ผลิตภัณฑ์, การติดตั้ง และความหนาของวัสดุกันไฟ จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับอัตราการทนไฟ
    • ผู้ติดตั้งวัสดุป้องกันไฟต้องเข้านำเสนอวิธีการติดตั้งก่อนการติดตั้งเพื่อตรวจรับวัสดุ, การติดตั้ง, ความหนา, กระบวนการติดตั้ง และหัวข้ออื่นๆ
  5. ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์
    • วัสดุป้องกันไฟ ต้องเป็นวัสดุประเภท Solvent-Based Intumescent หรือ Water-Based Intumescent และต้องไม่มีสาร asbestos
    • วัสดุป้องกันไฟ เมื่อแห้งตัวแล้วจะกลายเป็นแผ่นฟิล์มบางผิวขรุขระ มีความหนาตามชั่วโมงการทนไฟที่กำหนดตามกฎกระทรวง

ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเมื่อวัสดุแห้งแล้ว จะต้องมีความทนทานและยึดติดกับโครงสร้างได้เป็นอย่างดี ขอแนะนำ FIREKOTE S99 สีกันไฟ ช่วยปกป้องโครงสร้างเหล็กภายในอาคารเวลาเกิดเหตุเพลิงไหม้ ผ่านมาตรฐาน ASTM E119 และเป็นไปตามกฎกระทรวงฉบับที่ 60 ได้รับมาตรฐานการรับรองสากล

 

เทคนิค การทาสีกันไฟ

 

การทา สีกันไฟไหม้ ไม่ใช่การทาสีทาบ้านธรรมดาทั่วไป แต่ต้องอาศัยช่างที่มีความเชี่ยวชาญ เพราะเป็นการทาสีบริเวณโครงสร้างอาคารที่มีกรรมวิธีหลายขั้นตอน จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมและตรวจเช็กสภาพโครงสร้างของอาคารในหลายๆ ด้าน เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ซึ่งขั้นตอนในการทาสีกันไฟ มีดังนี้

ขั้นตอน การทาสีกันไฟ

  1. เตรียมความพร้อมของผู้ปฏิบัติงาน และสวมใส่อุปกรณ์นิรภัยให้เรียบร้อย
  2. ตั้งนั่งร้านตามมาตรฐาน ให้เหมาะสมกับภาพการใช้งานจริง
  3. ตรวจเช็กสภาพความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ก่อนเริ่มปฏิบัติงานจริง
  4. ตรวจสอบชิ้นงานพร้อมทำความสะอาดชิ้นงาน จำพวก ฝุ่นละออง ตะกอนเหล็กฯ
  5. ทาสีกันสนิม ความหนาประมาณ 35-50 ไมครอน ทิ้งระยะเวลาประมาณ 4-6 ชม. แล้วจึงตรวจเช็กความหนาสีกันสนิม บันทึกค่าลงตารางเช็กความหนา
  6. ทาสีกันไฟ Firekote (S99) เที่ยวละ 200-250 ไมครอน ทิ้งระยะเวลาประมาณ 4-6 ชม. ในแต่ละรอบ
  7. ทาสีกันไฟ Firekote (S99) จนได้ความหนาตามที่ระบุ ทิ้งระยะเวลาประมาณ 8-10 ชม. แล้วจึงตรวจเช็กความหนาของ สีทนไฟ บันทึกค่าลงตารางเช็กความหนา
  8. ทาสีทับหน้าความหนา 35-50 ไมครอน ทิ้งระยะเวลาประมาณ 6-8 ชม. แล้วจึงตรวจเช็กความหนาสีทับหน้า บันทึกค่าลงตารางเช็กความหนา

 

สรุป การทาสีกันไฟ ปลอดภัยอย่างไร?

สรุปแล้ว การทาสีกันไฟ บนโครงสร้างหลักของอาคาร เป็นการป้องกันการลุกไหม้ของไฟเมื่อเกิดอัคคีภัย โดยในกรณีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ สีกันไฟจะทำหน้าที่เป็นฉนวนป้องกันไฟโครงสร้างเหล็กจากความร้อน ยับยั้งการแพร่กระจายความร้อน และช่วยลดการลุกไหม้ของวัสดุที่ติดไฟได้

 

 

เลือก การทาสีกันไฟ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ต้องที่ Bitec Enterprise

Bitec Enterprise เป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ทางด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมมาอย่างยาวนาน ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 ในเรื่องของระบบบริหารที่มีคุณภาพ ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจในบริการ

นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีการจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง เพื่อช่วยยกระดับในเรื่องของการใช้งาน ซึ่ง สีกันไฟ ที่มีคุณภาพ ต้องเลือกตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนี้

  • มาตรฐาน เอเอสทีเอ็ม อี 119 (ASTME 119) หรือ ISO 834 ตามพรบ.ควบคุมอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง 
  • มาตรฐานว่าด้วยวัสดุและผลิตภัณฑ์ด้านอัคคีภัย กรมโยธาธิการและผังเมือง
    • มยผ.1333-61 มาตรฐานความคงทนของอาคารเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ
    • มยผ.8212-52 มาตรฐานการทดสอบแรงยึดเหนี่ยววัสดุพ่นเคลือบผิวกันไฟ
    • มยผ.8101-52 ข้อกำหนดการควบคุม การใช้งานวัสดุภายในอาคาร
    • มยผ.8302-52 มาตรฐานประกอบการออกแบบติดตั้งชิ้นส่วนโครงสร้างทนไฟ
    • มยผ.8303-52 มาตรฐานประกอบการออกแบบวัสดุและอุปกรณ์ป้องกันการลามไฟ

หากคุณกำลังมองหา สีกันไฟ คุณภาพดี เลือก Bitec Enterprise ผู้เชี่ยวชาญด้านสีกันไฟ ด้วยประสบการณ์มากกว่า 25 ปี ทั้งด้านการให้บริการ และให้คำปรึกษา พร้อมสินค้าที่ได้มาตรฐานทุกรายการ รับรองว่าประสิทธิภาพของสินค้าจะตอบโจทย์ทุกการใช้งานอย่างแน่นอน

 

 

 

ติดต่อสอบถามข้อมูล และข้อสงสัยต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ เพิ่มเติมได้ที่นี่

Facebook: BITEC Enterprise Ltd.

E-mail: info@bitecenterprise.com

Line: @Bitecenterprise

Tel: 02-717-1155